ทำอย่างไร เมื่อสัญญาณเตือนภัยร้อง

Tagged: , ,

ทำอย่างไร เมื่อสัญญาณเตือนภัยร้อง 

การติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือน เหตุบุกรุก ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีการนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ในอาคารสถานที่และบ้านเรือนที่ต้องการติดตั้งระบบป้องกันการขโมย

หลายต่อหลายบ้านที่ติดตั้งไปแล้วเกิดความอบอุ่นใจ สบายใจหรือแม้แต่มีบางคนถึงขั้นนิ่งนอนใจ

แต่ทว่า เคยลองถามตัวเองหรือไม่ว่า หากในวันหนึ่งที่คุณอาศัยอยู่ในบ้าน และเกิดเสียงสัญญาณเตือนร้องดัง คุณจะปฏิบัติตัวอย่างไร?


สิ่งที่มักเกิดขึ้นกับเจ้าของบ้านหลายๆคนที่ขาดการฝึกฝนและขาดประสบการณ์ ขาดแม้กระทั่งการวางแผนรับมือและการเรียนรู้การปฏิบัติตัว รวมถึงไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพ

นั่นก็คือ ถือสิ่งที่หยิบฉวยใกล้ ไม่ว่าจะเป็นไม้กวาดไม้ถูพื้น หรือแม้แต่มีดปอกผลไม้ ค่อยๆแง้มประตู ย่องๆ ผลุบๆโผล่ๆแอบมอง ค่อยๆเดินทะเล่อทะล่า ไปเปิดไฟดู เหล่านี้เป็นต้น

ถ้าคนร้ายเป็นพวกขี้กลัว เผ่นแนบออกไปแล้วก็ดีไป แต่หากเป็นคนร้ายที่มันหาทางออกไม่ทันและจำต้องซุ่มต่อสู้ หรือหากว่าเป็นคนร้ายที่ใจคอเหี้ยมโหด ซุ่มดักรอคุณอยู่ล่ะจะทำอย่างไร

หรือในนาทีนั้น คนในบ้านคนอื่นๆ ก็ดันเดินทะเล่อทะล่าออกมาช่วยดูจากตำแหน่งอื่นๆเช่นกัน โดยเฉพาะยิ่งหากเป็นเด็กๆ

อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้?

 

การปฏิบัติตัวที่ควรทำที่สุด หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณร้องดังแล้วนั้น
ในกรณีจะกล่าวถึงเฉพาะภาวะจำเป็นที่ต้องมีการตรวจตรา และคุณจำเป็นต้องเป็นผู้ตรวจตรา ซึ่งไม่พร้อมที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันเนื่องจากไม่แน่ใจในสาเหตุที่สัญญาณร้องเตือนอันอาจเกิดจากเหตุขัดข้องของอุปกรณ์ หรือเกิดจากเหตอื่นๆ

หากคุณได้ติดตั้งกล้องวงจรเอาไว้ด้วย และเป็นระบบที่มีจอภาพมอนิเตอร์ตลอดเวลา ควรเริ่มจากการเช๊คภาพก่อน หากหน้าจอนั้นอยู่ใกล้และไม่อยู่ไกลเกินไปที่จะเดินเสี่ยงไปเปิดดู

แต่หากคุณไม่มีกล้องหรือไม่มีระบบมอนิเตอร์ สิ่งที่คำนึงต่อมาก็คือ อุปกรณ์ที่จะถือติดตัวไป
ซึ่งสำคัญที่สุดในกรณีนี้ก็คือ ไฟฉาย

การใช้ไฟฉายนั้นมีเทคนิควิธีที่ต้องอาศัยการฝึกและอบรมเรียนรู้ แต่หากว่าคุณไม่มีสกิลเรื่องนี้มากนัก ให้จำไว้ง่ายๆคือ การส่องไฟฉายแต่ละครั้งต้องมั่นใจว่าตนเองยืนอยู่ในจุดที่จะ พุ่งสู่ทางหนีได้เร็วกว่า และส่องให้เร็วส่องให้ไว ส่องให้ถูกจุด และพึงหลีกเลี่ยงการส่องระยะใกล้
และควรส่องจากที่กำบังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือควรอย่าลืมพกติดตัวไปด้วย เพราะคุณอาจอยู่ในจุดคับขัน ที่ไม่อาจวิ่งกลับไปทางเดิมไปยังห้องของตัวเอง

สิ่งต่อมาที่ต้องจำคือ
การตะโกนถาม ให้ระมัดระวัง การใช้การตะโกนถาม การตะโกนถามเหมาะแก่การใช้สำหรับเหตุที่ดูน่าสงสัยว่าจะเป็นคนในบ้าน หรืออาจเป็นผู้ไม่มีเจตนามาร้าย
แต่การตะโกนถามนั้น คุณต้องอยุ่ในจุดที่มั่นคงต่อการหลบหนีและหลบหลีก จึงค่อยตะโกนถาม

และหากตะโกนถามไปแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือมีเสียงตะกุกตะกักพิรุธยิ่งขึ้น ให้รีบทำการหลบหนีโดยเร็วก่อน
และการหลบหนียิ่งไปได้เงียบเท่าไหร่ยิ่งดี ควรหลีกเลี่ยงอาการที่แสดงถึงความหวาดกลัวแตกตื่น

โดยเมื่อหนีไปยังจุดปลอดภัยต่อการถ่วงเวลาได้ดีแล้วให้เริ่มทำการโทรติดต่อตำรวจได้ทันที
เบอร์โทรที่ควรมีไว้ในเครื่อง ควรมีเบอร์โทรของสถานีตำรวจใกล้ๆบ้านที่สุด และใช้เบอร์191เป็นทางเลือกสุดท้าย หากติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วมีความล่าช้าในการรับสาย ให้รีบเปลี่ยนไปยังเบอร์คนรุ้จักใกล้เคียงที่ช่วยวิ่งเต้นช่วยเหลือคุณได้ดีที่สุดเป็นลำดับต่อไปแล้วจึงค่อยวนกลับไปที่เบอร์ตำรวจอีกครั้ง

จังหวะของการโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพดี จะช่วยความปลอดภัยของคุณได้ดี

เมื่อทำในการแจ้งเหตุเสร็จแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมานั่นก็คือ การตัดสินใจว่าจะซ่อนตัวหรือร้องตะโกนออกนอกหน้าต่าง

การตัดสินใจซ่อนตัวควรทำในภาวะที่สถานการณ์ภายในบ้านยังคงเป็นเกมของความเงียบ ยังไม่มีอะไรแตกตื่น และมีทีท่าว่าคนร้ายยังคงนิ่งนอนใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นกรณีที่มีแนวโน้มในเจตนาของคนร้ายว่ามากกว่าการขโมย เช่นมีการจี้ปล้น หรือประสงค์จะทำร้ายหรือเอาชีวิต
คุณยิ่งต้องเลือก การซ่อนตัว
แต่หากเป็นกรณีที่คนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของคุณแล้ว รวมถึงคุณอยู่ในห้องที่มีความแน่นหนาอย่างน่ามั่นใจดีแล้ว การตะโกนร้องขอความช่วยเหลือนั้นจึงเป็นหนทางที่น่าทำ

แต่ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของบ้านมักจะวู่วาม ด้วยความหวงทรัพย์สิน จนขาดสติและแตกตื่น มีใจอยากจะไล่โจรให้ตกอกตกใจให้รีบหนีออกไปซะ โดยไม่ทันได้เอาทรัพย์สิน
หรือมีความอยากจับกุมโจรว่ามันเอาอะไรไปบ้าง

จนกระทำการอันก่อเกิดความเสี่ยง และไม่เป็นระบบ

จงจำไว้ว่า ชีวิตของตนและครอบครัว มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สิน หากคุณไม่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้อย่างแท้จริง หรือหากไม่มีอาวุธ ไม่มีกำลังคนที่เหนือกว่า ไม่ได้อยู่ในจุดที่ได้เปรียบกว่า ไม่ควรนำชีวิตของตนและครอบครัวไปเสี่ยง

หรือแม้ว่าคุณจะคิดว่าตนเองเก่งมีวิชาฝีมือต่อสู้ติดตัวมาบ้าง อย่างไรก็ไม่ควรเสี่ยงเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่คุณไม่รุ้จำนวนคนร้าย และไม่รู้ว่าคนร้ายนำสิ่งใดติดตัวมาบ้าง

หนำซ้ำต่อให้คุณมีอาวุธและตัดสินใจยิงคนร้าย มันอาจนำมาซึ่งความผิดพลาด และตกเป็นรองทางข้อกฏหมาย จำไว้ว่า ปืนและมีดมีไว้ต่อสุ้ในยามจนมุมหรือคนร้ายถืออาวุธเข้ามาใกล้ตัว เท่านั้นที่กฏหมายเอื้อให้คุณทำการใช้งานอาวุธเข้าใส่คนร้ายได้
หากคุณใช้มันเพื่อการหวงแหนทรัพย์สิน คุณอาจต้องได้จ่ายออกไปในมูลค่าที่ยิ่งกว่าทรัพย์สินของคุณ

นอกจากนี้การมีแบบแผนนัดแนะบอกเตรียมกันไว้ กับคนในบ้านเอาไว้บ้าง อย่างเช่นการสอนลูกสอนหลานว่าหากเกิดเหตการณ์แบบนี้ควรปฏิบัติตัวยังไง เช่นไม่ควรออกมาดูหรือเพ่นพ่านเป็นต้น

 

เนื้อหาข้อเขียนในบทความสงวนลิขสิทธิ์โดยhttp://guard.setmem.com/
สามารถติดต่อสอบถามเรื่องต่างๆ ได้ที่อีเมล winesell@gmail.com

บทความนี้ไม่อนุญาติให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ในที่อื่นใด โดยไม่ได้รับอณุญาติ อย่างเด็ดขาดโดยเราพร้อมจะดำเนินการทางกฏหมายอย่างเต็มที่

หากต้องการใช้บทความ กรุณาติดต่อขอใช้ก่อนนำไปใช้ และได้รับการอณุญาติเป็นข้อความอีเมล

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).