วิธีปฏฺิบัติ ขณะจอดรถติดเครื่องแล้วเกิดไฟไหม้

สถานการณ์ไฟไหม้รถยนต์กระทันหัน ในขณะที่จอดรถติดเครื่องอยู่ดีๆ โดยไม่ทราบสาเหต

คือภาวะที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหน้าข่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่เสมอมิใช่เรื่องไกลตัว
แต่อย่างใด

การเอาตัวรอดให้ได้พร้อมทั้งรักษาทรัพย์สินรถยนต์เอาไว้ให้ได้อันที่จริงส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่เรื่อง
ที่ปฏิบัติการได้ยากหรือลึกลับแต่อย่างใด แต่ทว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักเกิดจากการ
ขาดความเตรียมพร้อม และขาดการเตรียมตัวฝึกจำขั้นตอนในการรับมือกับสถานการณ์

ความตื่นเต้นความตระหนกร้อนรน นอกจากจะไม่สามารถลำดับขั้นตอนจัดการกับเหตุได้อย่างถูก
ต้องแล้ว ยังอาจยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นได้อีกด้วย

ดังนั้นหัวใจสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้นั่นก็คือ ความเร็วและความมีสติรวมถึงความ
รู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ทันทีที่เกิดกลิ่นหรือควันผิดสังเกต สิ่งแรกที่ควรทำนั่นก็คือต้องไม่นิ่งดูดายไม่มัว รอสังเกต
อาการต่างๆของรถ ไม่ต้องรอความชัดเจนจากการนั่งสังเกตอยู่แต่ในรถ
สิ่งที่ต้องทำคือ บิดกุญแจดับเครื่องทันทีอย่างรวดเร็ว แม้ว่ารถจะดับเองก็ต้องทำการบิดกุญแจให้
ระบบไฟฟ้าต่างๆดับโดยสมบรูณ์ให้มากที่สุด แล้วลงจากรถลงตรวจ

โดยสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมไว้เสมอนั่นก็คือ ผ้าผืนหนาๆที่ควรมีติดรถไว้ตลอดเวลาและควรอยู่ภาย
ในห้องโดยสาร ที่พร้อมหยิบฉวยได้อย่างทันที

เมื่อลงไปตรวจรถต้องไม่ลืมที่จะหยิบผ้าลงไปด้วย และอย่าพึ่งรีบเปิดฝากระโปรงรถ พึงระลึกไว้
เสมอว่าการเปิดฝากระโปรงทันที นอกจากอาจเกิดอันตราย จากความร้อนที่ถาโถมเข้าใส่อย่าง
รวดเร็วแล้ว ยังเป็นการเติมอ๊อกซิเจนจากอากาศให้กับเชื้อไฟอีกด้วย

สิ่งที่ต้องทำนั่นก็คือให้สังเกตละอองควัน และความร้อนที่เล็ดลอดไหลผ่านฝากระโปรง
หากตรวจพบ ต้องไม่รอช้าหรือรอสังเกตอันใดเพิ่มเติมอีก ควรที่จะตรงไปเปิดฝากระโปรงหลัง
หรือตำแหน่งใดๆก็ตามที่ได้เก็บอุปกรณ์รับมือเอาไว้

ซึ่งอุปกรณ์รับมือนั้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่รถทุกคันควรต้องมี ซึ่งสิ่งที่จะหยิบฉวยมาด้วยนั้น
ประกอบไปด้วย ถังดับเพลิง กล่องเครื่องมือ และคีมตัด

ใช้ผ้าหนาๆพันมือค่อยๆแง้มฝากระโปรงเล็กน้อยถ้าปรากฏควันโพยพุ่งออกมามาก ให้ไล่ระดับ
การเปิดฝากระโปรงเป็นเสต๊ปคือ ให้แง้มฝากระโปรงเล็กน้อยอย่างรวดเร็วพอที่จะสามารถใช้ถัง
ดับเพลิงฉีดสวนเข้าไป ทำซ้ำๆหลายๆเที่ยว ค่อยๆเพิ่มระดับการเปิดฝากระโปรงจนกว้างขึ้น จาก
นั้นใช้ถังดับเพลิงฉีดให้ทั่ว

ไม่ควรเสี่ยงใช้น้ำสาดเข้าไปในฝากระโปรง เพราะอาจยิ่งเพิ่มการลุกลามของไฟหากเป็นกรณีที่
ไฟได้ใช้สารเคมีวัตถุเคมีต่างๆรวมทั้งน้ำมันกลายเป็นเชื้อไฟ

ไม่ควรใช้การเป่าหรือพัดโบกหวังดับไฟ เพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มอ๊อกซิเจนขยายเชื้อไฟ

บางจุดอาจสามารถ ใช้ผ้าหนาๆคลุมทับไฟได้ ยิ่งหากเป็นผ้าเฉพาะทางในการดับไฟอย่างเช่นFIRE BLANKETจะยิ่งดีมาก

แต่บางจุดก็ไม่เหมาะสมที่จะทำ

และเมื่อไฟได้ดับลงแล้ว จงอย่าชะล่าใจเด็ดขาดซึ่งอาจมีการก่อเชื้อไฟในจุดเล็กจุดน้อยให้
ลุกลามขึ้นได้อีกครั้ง

สิ่งที่ควรทำต่อมา หรือหากสามารถทำได้แต่แรก ควรทำก่อน นั่นก็คือการ ถอดขั้วแบตเตอรี่
เพื่อตัดกระแสไฟต่างๆภายในตัวรถ

หรือหากมีความร้อนสูง มีการไหม้ ที่ถอดแบตเตอรี่ด้วยเครื่องมือไม่สะดวกหรือชักช้าไม่ทันการ
กรณีนี้อุปกรณ์ที่ควรตัดสินใจใช้อย่างไม่รอช้านั่นก็คือคีมตัดที่มีขนาดเหมาะสมจัดการ ตัดทุก
สายที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า แต่ควรระวังอย่าพลาดตัดท่อของเหลวใดๆที่มีผลต่อการเพิ่มเชื้อ
ไฟเป็นอันขาด หากเป็นรถที่ติดตั้งแก๊ส ควรเริ่มด้วยการปิดวาวล์แก๊สก่อน

แต่หากอยู่ในกรณีสถานการณ์ที่รถคุณไม่มีถังดับเพลิงเลย สิ่งที่ควรทำนั่นก็คือ
การเร่งขอความช่วยเหลือทั้งจากการโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมถึงการโบกขอความ
ช่วยเหลือจากรถที่ผ่านไปมา

แต่หากคุณตกอยู่ในภาวะห่างไกลความช่วยเหลือ และจำเป็นต้องทำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด
ตามอัตภาพที่มี สิ่งที่คุณควรทำต้องใช้การดับไฟด้วยน้ำหรือวัตถุที่สามารถคลุมไฟตบไฟได้
เท่านั้น

ซึ่งเป็นวิธีที่เสี่ยงต่อไฟลุกลามขยายตัว ในกรณีนี้คุณจะต้องใช้ความระมัดระวังใช้ ฝีมือพอสมควร
พิจารณาให้แม่นยำว่าเป็นอัคคีเพลิงแบบที่ใช้น้ำดับได้หรือไม่ หากไม่ทราบและเลือกที่จะเสี่ยง
คุณต้องใช้ความแม่นยำให้มวลน้ำสามารถฉีดหรือสาดเข้าไปได้อย่างตรงจุด ใช้มวลความหนา
แน่นของน้ำในการดับไฟ หรืออาจใช้ผ้าชุบน้ำเข้าตบหรือคลุมทับไฟ ก็จะเสี่ยงได้น้อยลงแต่ใน
ขณะที่ตกไฟต้องระวังท่าทางในการใช้อย่าให้เป็นการโบกเพิ่มอากาศเข้าใส่ไฟจนลุกลามยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะหากคุณไม่มีทั้งถังดับเพลิงไม่มีแม้แต่น้ำ สิ่งสุดท้ายที่ต้องมองหาให้ไว นั่นก็คือวัสดุที่
สามารถนำมาคลุมทับไฟได้ หรือหากมีชุดเครื่องมือ คุณต้องพร้อมที่จะตัดงัดรื้อ ห้องเครื่อง เอา
ชิ้นส่วนต่างๆออกให้มากที่สุด อย่างไม่ต้องบันยะบันยังถนอมชิ้นส่วนใดๆ เพื่อเข้าให้ถึงชิ้นส่วนที่
เป็นต้นเพลิง และจัดการให้ตรงจุด รวมถึงเป็นการแยกชิ้นส่วนใดๆที่จะนำพาการลุกลามร่วมกัน
นั้นจับแยกหรือโยนออกไปให้ได้และเร็วที่สุด

แต่วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่ เพลิงยังไม่ลุกลามใหญ่โตมากนักเท่านั้น

ยังเป็นเพลิงที่ยื้อเกม ควบคุมกันไปมาแบบดับไม่สามารถสนิทได้ ก็สามารถเลือกใช้วิธี ถล่มงัดห้องเครื่องได้ อย่างไม่ต้อง
เสียดาย ยอมพังส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่เอาไว้ให้ได้
ซึ่งหากมีผู้โดยสารมาด้วยควรทำอย่างทีมเวิคร์เช่นให้ผู้โดยสารบางคนช่วยเสาะหาความช่วยเหลือ
หรือบางคนช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินอื่นๆออกจากตัวรถ

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).