สถานการณ์รถตกลงไปในน้ำ นั้นเป็นสถานการณ์ที่เวลาเราอ่านข่าวหรือเราเห็นตามฉากแอคชั่นในภาพยนตร์ ดูไปแล้วมักสร้างความรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว ยากที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับตนเอง
แต่แท้ที่จริงแล้ว เรื่องแบบนี้นับเป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวเลย
ถนนหนทางมากมาย ที่ผ่านเส้นทางของน้ำ อีกทั้งยังมีเรื่องของอุทุกภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างกระทันหันไม่ทันตั้งตัว
การรับมือกับเหตการณ์นี้ ปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่สุดที่คุณควรต้องมีแล้วจะดีมากๆ ประการแรกก็คือการว่ายน้ำเป็น แต่แน่นอนว่ายังมีคนอีกมากที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรือว่ายน้ำไม่แข็ง
อย่างน้อยที่สุดควรที่จะพอลอยตัวหรือลอยคอได้เป็น หรือหากไม่มีทักษะเลย ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด คุณต้องทำทุกทางที่เพิ่มโอกาสรอด อย่างเช่นการออกจากรถให้ได้ อาจจะโผไปที่ระดับผิวน้ำได้บ้างให้ คนช่วยเหลือมองเห็นตำแหน่งได้ง่ายขึ้น
หรือบางทีน้ำอาจจะไม่ลึกมากนัก แต่การออกจากรถให้ได้นั่นคือวินาทีเป็นวินาทีตายสำคัญที่สุด
และแน่นอนว่าเครื่องป้องกันชั้นดีที่สุดที่ต้องใช้ในทุกสถานการณ์ร้าย นั่นก็คือสติ
ทันทีที่รถลงสู่ผิวน้ำ นั่นหมายถึงเวลากำลังนับถอยหลัง การหวาดกลัว ร้องตะโกน ปัดป่าย ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยนอกจากทำลายเวลา การรอดของคุณให้น้อยลง
เมื่อคุณตั้งสติได้แล้ว สิ่งต่อมาก็คือวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง เรียงขั้นตอนให้ถูก ไม่เสียเวลาไปกับขั้นตอนวิธีผิดๆ
หากรถนั้นกำลังลอยตามผิวน้ำ ในแนวตรง และดูแนวโน้มแล้ว ไม่น่าจะเจอกับแรงกระแทกใดๆที่รุนแรง อีกทั้งหน้าต่างยังไม่จมน้ำ ให้รีบปลดเข็มขัด พร้อมกับ ร้องบอกผู้โดยสารหากมี ให้คุมสติแล้วและทำการเปิดหน้าต่าง ออกทางหน้าต่าง
อย่าเปิดประตูรถ เพราะแรงดันน้ำจะดันประตูรถรวมถึงหากเปิดประตูรถออกไปแล้วน้ำอาจทะลักจนรถเสียการทรงตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เสียหลักที่จะเคลื่อนตัวออกจากรถ
แต่หากเป็นการพุ่งลงน้ำอย่างรุนแรงในแนวดิ่ง และน้ำได้ครอบคลุมหน้าต่างไปหมดแล้ว
จงจำไว้ว่า ขณะที่รถยังกระแทกกระเทือนไม่หยุด อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยอย่างเด็ดขาด รวมทั้งบอกกับผู้โดยสารด้วยหากมี
เพราะหากรถยังมีแนวโน้มว่าจะชนกับการกระแทกกับอะไรบางอย่างในน้ำได้อีกนั้น หากคุณถอดเข็มขัดออกก่อน แล้วคุณต้องเจอกับแรงกระแทก จนเกิดการบาดเจ็บ หรือมึน งง หรือสลบ สถาณการณ์มันจะยิ่งเลวร้ายทวีคูน นอกจากนี้สิ่งที่คุณพอจะทำได้ในขณะยังใส่เข็มขัดอยู่นั่นก็คือรีบเอื้อมไปเปิดไฟในห้องโดยสาร รวมถึงไฟหน้ารถ เพื่อส่องสว่างให้มองเห็นและง่ายต่อการเตรียมปฏิบัติตัวต่างๆ ก่อนที่รถจะมืดลงจนมองหาอะไรไม่เห็น
และเมื่อรถมีแนวโน้มว่านิ่งดีแล้ว ให้คุณรีบทำการปลดเข็มขัด และแข่งกับเวลาอย่างมีสติ ซึ่งในขณะนั้นโดยมากแล้ว กระแสระบบไฟฟ้าต่างๆของรถยังคงอาจจะทำงานได้ชั่วครู่ ไม่ต้องกลัวไฟช๊อต เพราะระบบไฟในรถ จะใช้ไฟกระแสตรง ไม่ใช่กระแสสลับเหมือนไฟบ้าน
หากในรถมีผู้โดยสารคนอื่นๆอยู่ด้วย ให้ช่วยกันคุมสติและบอกขั้นตอนนัดแนะต่อกันอย่างรวดเร็ว หากมีเด็กมาด้วย ให้ทำการช่วยเหลือเตรียมพากันออกจากรถด้วย และบอกทุกคนว่าเตรียมสูดลมหายใจตุนไว้ให้เต็มที่และเตรียมกลั้นหายใจ อย่าให้สำลักน้ำและโผขึ้นเหนือน้ำอย่างมีสติกันให้ได้ และในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น ก่อนที่ไฟในรถจะดับลง
ให้ ลองทำการเปิดกระจก เพราะเป็นเรื่องที่ควรทำก่อน ที่ระบบไฟฟ้าจะดับลง หากกระจกเปิดออกได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ และเมื่อกระจกเปิดได้แล้ว ก็ต้องรับมือกับวิธีการออกจากรถต่อไป แต่หากเปิดกระจกไม่ได้
ก็ให้ทำการเปิดประตู ซึ่งอันที่จริงที่แนะนำให้เปิดกระจกก่อนก็เพราะ โดยทั่วไปแล้ว ประตูมักจะเปิดไม่ออก เพราะไม่สามารถสู้กับแรงดันน้ำได้ และเมื่อลองเปิดประตูแล้ว ปรากฏว่าเปิดไม่ได้เปิดไม่ออก จงอย่าเสียเวลา กับการดึงดันจะเปิดประตู
ให้รีบ มองหาของแข็งภายในรถ โดยของแข็งที่เหมาะสมในการทุบกระจกที่สุด หากมีให้เลือกไม่ควรเลือกวัตถุที่มีขนาดเทอะทะ เคลื่อนไหวยาก แต่ให้เลือกวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็งจับถือง่าย และยิ่งหากมีส่วนที่ทำมุมเหมือนแท่งเหล็กปลายแข็ง จะยิ่งดีมาก
จากนั้นควรเลือกทำลายกระจกด้านข้างก่อน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะมีขนาดบางกว่ากระจกหน้าและหลัง หากทุบไม่ออกก็ให้เลือกกระจกหน้าหรือหลังเป็นลำดับต่อไป แต่การเลือกกระจกหน้าหรือหลังนั้นจะต้องเลือก บานที่อยู่ในจุดเงยชี้ไปทางทิศด้านบน อย่าทุบกระจกหน้าหรือหลังที่อยู่ในทิศทางหัวทิ่มลง เพราะแรงดันน้ำจะอยู่ในภาวะออกไปได้ยาก น้ำอาจท่วมเข้ามาให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีก
วิธีทุบหน้าต่างๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก การทุบหน้าต่างจะต้องทุบแล้วหน้าต่างแตกออกเป็นแผงเป็นช่องที่ใหญ่ จงระวังมากๆอย่าให้กลายเป็นการเจาะรูเล็ก จนน้ำท่วมเข้ามาในรถแล้วออกไม่ได้
การทุบหน้าต่างค่อนข้างจะต้องมีเทคนิควิธี การกระแทก และต้องคำนวณรู้เหลี่ยมมุมของบานกระจก ในจุดที่แม่นยำสามารถแตกออกเป็นแผงได้ ดังนั้นควรที่จะใช้การงัดก่อน
โดยใช้แท่งเหล็กหรือรถในบางรุ่นมีพนักรองศรีษะ ที่สามารถถอดออกได้ และจะมีเหล็กเป็นแท่งๆสำหรับเสียบ ให้ทำการเสียบทุบเบียดแท่งเหล็กลงไปที่ช่องขอบหน้าต่างระหว่างแผงประตูรถ แล้วทำการงัดเข้าหาตัว วิธีนี้จะสามารถทำให้กระจกแตกเป็นแผงได้ง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้มีอุปกรณ์ประเภทกู้ภัย อย่างเช่นมีดพกที่มีส่วนต้นขั้วเป็นโลหะทำมุม เหมาะสำหรับทุบกระจกรถโดยเฉพาะ ออกขายจำหน่าย ซึ่งหากใครซื้อติดรถเอาไว้ย่อมเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยนาทีคับขันได้มาก
จงใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้ม อย่ามัวแต่กระเสือกกระสน ขยับตัวหนีน้ำไปยังที่แห้ง หรือพากันไปกองรวมกันในบริเวณที่หวังจะเอาอากาศหายใจ เพราะท้ายที่สุดน้ำย่อมต้องท่วมหมดทั้งคัน และอาจพากันไปติดอยู่ในจุดที่เคลื่อนไหวทำอะไรได้ติดขัดจนสายไป
และหากออกมาจากรถได้แล้ว ให้ระวังเรื่องการสำลักน้ำ จะต้องต้องกลั้นหายใจให้เป็น หากพยายามจะช่วยดึงคนอื่นๆออกจากรถ ต้องระวังการขาดสติดึงกันเหนี่ยวฉุดรั้งกัน จนพากันจมน้ำทั้งคู่ ดังนั้นผู้ที่มีสถานการณ์เป็นผู้นำในนาทีนั้น จะต้องระวังท่วงท่าด้วย ระวังอย่าให้ถูกผุ้โดยสารที่ขาดสติ กอดรัด จะต้องรักษาระยะท่าร่างที่เหมาะสมแก่การช่วย
ซึ่งหากออกจากรถได้แล้วหากเป็นไปได้ ให้หาจุดที่สามารถถีบตัวได้มีพลังการถีบ เช่นใช้เท้ายันกับตัวรถ เพื่ออาศัยพลังการผลักตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ และต้องระวังการถีบด้วย อย่าให้เท้าไถล เข้าไปโดนโครงสร้างรถส่วนที่มีคม หรือส่วนที่เป็นซอกหลืบหนีบอวัยวะจนดึงไม่ออก
หากเป็นไปได้และทำร่วมกันได้ทัน ควรถอดเสื้อผ้าและรองเท้า ในส่วนที่มีน้ำหนักมากเกินไปจนสร้างภาระแก่การลอยตัวผิวน้ำ
เมื่อขึ้นผิวน้ำได้แล้ว ต้องดักจังหวะให้ดีเมื่อใบหน้ามีจังหวะผลุบขึ้นผิวน้ำ และเป็นการผลุบๆโผล่ๆอันเกิดจากสภาวะยังรักษาท่าร่างได้ไม่นิ่ง ยังหาจุดสมดุลย์อยู่นั้น อย่าพึ่งรีบเร่งจะหายใจมากเกินไป จนกลายเป็นพลาดสำลักน้ำ ให้ตั้งสติให้ดี และฮุบเอาอากาศให้คุ้มทุกครั้งที่ใบหน้ามีโอกาสขึ้นจากผิวน้ำ เมื่อทำได้ดีแล้ว ให้พยายาม ลอยคอ หรือลอยตัวเตรียมแรงไว้ว่ายน้ำเป็นลำดับต่อไป หรือทำเพื่อรอคอยการช่วยเหลือ แต่หากในรายที่ไม่มีความชำนาญในการลอยคอมากพอ สิ่งที่ยังพอจะลุ้นให้รอดได้ นั่นก็คือ หากมีจังหวะใดที่โชคดี หัวผลุบขึ้นบนผิวน้ำได้ ให้ส่งเสียง ให้คนรอบบริเวณพอจะรู้ตำแหน่งได้
หรือมองหาสิ่งยึดเกาะที่อาจจะโชคดีมีอยู่ลอยบนผิวน้ำ หากเกาะได้ให้คุมตัวเองอย่าดิ้นมากเกินไปจนเสียการทรงตัว
จงพยายามเคลื่อนไหวให้ช้าเป็นจังหวะที่สุด เพื่อให้ใบหน้าสามารถผลุบโผล่ขึ้นมาดักเอาอากาศหายใจเป็นจังหวะได้