การรับมือเหตร้าย จากภัยรักลวง

ความรักคืออะไร มีผู้ให้ความหมายอยู่หลากหลายนิยาม

เรื่องรักต้องปฏิบัติตัวเช่นไร? นั้นก็ยากที่จะมีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะความรักสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ มีองค์ประกอบที่มากมายเกินจะตีกรอบ

เรื่องความรักนั้น อาจเป็นเรื่องที่ มีผู้คนแสวงหาและอาจเป็นเรื่องที่คนบางกลุ่มไม่ได้แสวงหา และปล่อยไปตามพรหมลิขิต

การเรียนรู้เรื่องความรักนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆนั้น ไม่สามารถจะเชี่ยวชาญกันได้ทุกคน โดยเฉพาะคนในวงการหรือสาขาวิชาชีพหรือบางวิถีชีวิต นั้นอยู่ห่างไกลจากการคลุกคลีเรื่องรักเป็นอย่างมาก

บางเรื่องของความรักกลับเป็นเรื่องที่ต้องมีบทเรียนหรือมีประสบการณ์ หรือใช้การสังเกตุทำความเข้าใจ

แต่สิ่งนี้เอง ก็กลับกลายเป็นช่องทางที่คนมุ่งร้ายประสงค์หลอกลวงผู้คน เลือกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำสิ่งผิด

มีการล่อลวงทางความรักมากมายเกิดขึ้นในสังคม
ไม่ว่าจะล่อลวง มาเป็นเหยื่อของความเจ้าชู้และทิ้งขว้าง

ไม่ว่าจะล่อลวง ทรัพย์สินเงินทอง มีทั้งการประจบครอบงำ โอนทรัพย์สมบัติ กระทำได้ทั้งกับคนที่มีหรือไม่มีครอบครัว หลายต่อหลายคน ชีวิตพัง คนรอบข้างเดือดร้อน ลุกลามเป็นลูกโซ่ เพียงเพราะความหน้ามืดลุ่มหลงให้กับคนๆเดียว

หรือบางคนถูกข่มขู่รีดไถแบล๊คเมย์สารพัดวิธีการ

หนักเข้ามีถึงขั้นหลอกลวงไปค้ามนุษย์ หรือ นำไปพบกับวิบากกรรมสารพัดรูปแบบ

มีทั้งแบบทำเป็นแก๊งค์ทำเป็นขบวนการ นำกลวิธีต้มตุ๋นชนิดอื่นๆเข้ามาผสมผสาน
เช่นหลอกให้ช่วยเหลือเงินทองต่างๆ หลอกยืมเงินหรือหลอกให้ลงทุน หลอกให้ค้ำประกัน
หลอกให้จัดงานแต่งงาน

เราจะมีหนทางวิธีป้องกัน การเกิดเหตการณ์ประเภทรักลวงได้อย่างไร?

หากวิเคราะในด้านจิตวิทยา ผู้คนในสังคม มักมีลักษณะที่ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายหลายประการ

1.คือความมั่นใจในภูมิปัญญาไหวพริบของตน อย่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง มีความเชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นผู้มองออกรู้ทันคน

2. ขาดความรู้เท่าทันในด้านกระบวนการทางจิตวิทยาความผูกพัณธ์ อำนาจของความผูกพัณธ์
ที่สามารถสั่งสม รายละเอียดปลีกย่อย เกิดความซึ้ง และสามารถมองข้ามได้หลายเรื่อง

3.ขาดความเข้าใจในเรื่องระบบเคมีสมอง ที่สามารถเพาะบ่มอารมณ์ เป็นรูปอารมณ์ผลักดันให้เกิดความต้องการ และพร้อมจะเสี่ยงกับทางเลือกต่างๆ ละเลยปล่อยให้เกิดการสะสม
เพราะคิดว่าตนจะมีสติหักห้ามแยกแยะได้ตลอดเวลา โดยไม่เข้าใจถึงภาวะอำนาจที่จะเกิดขึ้นเมื่อกระบวนการสะสมสุกงอม นั้นมีพลังเป็นรูปแบบไหน มีความสบประมาทพลังนั้น และคึกคะนองที่จะลองของ ในยามแรกเริ่ม

4.บางคนมีความเชื่อมั่น หรือลุ่มหลงตัวเองอยู่ลึกๆ ในบางด้านของตนเอง มีความเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามจะชอบตนเองที่ด้านใดด้านหนึ่ง โดยขาดความรู้ในด้านความรักอย่างถ่องแท้ที่จะเข้าใจลักษณะการเกิดรูปของความรักที่มีความหมาย

5.สะสมความอยากมีคู่เก็บลึกอยู่เป็นปม แต่เดิมแล้ว หรือเก็บความแอบเหงาอ้างว้างหรือความปราถนาต่างๆซึ่ง อาการเหล่านี้จะมีปฏิกริยาอ่อนไหวง่ายต่อการเข้ามาของใครสักคน
ซึ่งควรมีการปรับทัศนคติใหม่ให้กับตนเองปลูกฝังนิสัยที่ ไม่อ่อนไหวง่ายอย่างขาดสติ

6.แพ้ รูปลักษณ์
คนบางกลุ่มเป็นพวกแพ้หน้าตา รูปร่างหรือเสป๊ค
คำว่าแพ้มีความหมายถึง การแพ้อย่างพร้อมจะลุ่มหลง ขาดการยั้งคิดให้รอบด้าน
ซึ่งหากใครที่มีลักษณะของอุปนิสัยเช่นนี้เป็นทุนเดิม ถือว่าคุณนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่างร้ายแรงและอยู่ในภาวะที่จะตกเป็นเหยื่อได้อย่างง่ายดาย

7.เป็นคนมีจิตใจดีเมตตาอารีย์ มนุษย์สัมพัณธ์ดี ใจกว้างชอบให้ความจริงใจปราถนาดีต่อผู้คน มีความขี้สงสาร และใจอ่อนง่าย
อันที่จริงแล้วการเป็นคนเช่นนี้ บางข้อก็นับว่าเป็นเรื่องที่ประเสริฐ แต่คุณต้องตรวจสอบตนเองได้อย่างถ่องแท้ ว่ารับได้หรือไม่กับสถานการณ์ถูกทำร้าย ทางใจหรือทางกายในรูปแบบต่างๆ ต่อคนมุ่งร้ายที่อาศัยช่องทาง ของคนจิตใจดี มองเห็นเป็นเหยื่อ เล่นสนุกกับใจคน
หากคุณตระหนักว่าไม่สามารถรับได้ คุณต้องพัฒนาสติปัญญา ในการวิเคราะคนอยู่เสมอ

8.ขาดความคุ้นเคย กับรูปแบบความสัมพัณธ์ กับผู้คนมากพอ
บางคนเป็นคนเก็บตัวบางคนเป็นคนขี้อาย บางคนเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ซึ่งอาจจะยังขาดความรู้เท่าทัน ปฏิกริยาของตนเองหากต้องพบเจอกับสิ่งแปลกใหม่สำหรับตนเอง
บางครั้งอาจง่ายที่จะรู้สึกต่อการกระทำของบุคคลที่เข้ามา ว่าเป็นการกระทำที่มีความหมายมากๆ
มีความรู้สึกสำคัญต่อเรื่องราวความสัมพัณธ์ อย่างที่รู้สึกลึกซึ้งมากเป็นพิเศษ อ่อนไหวง่ายกับถ้อยคำต่างๆ
กรณีนี้ ควรจะต้องเพิ่มพูนการสังเกตุพฤติกรรมต่างๆของผู้คนในสังคมให้มากขึ้น
และหมั่นฝึกการมีปฏิสัมพัณธ์กับคนรอบตัวไว้บ้าง พอประมาณเพื่อสร้างความคุ้นเคย จนไม่รู้สึก
เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมากเกินไป และได้ศึกษาชนิดของผู้คนมากขึ้น

9.ต้องมีความเด็ดขาด ต่อการพร้อมจะตัดขาดหากพบสัญญาณความเสี่ยงจากฝ่ายตรงข้าม
ติดตามศึกษาข่าวต่างๆจดจำรูปแบบพฤติการณ์ที่คนร้ายนิยมใช้
หากพบว่าบุคคลที่เข้ามาในชีวิตเริ่มปรากฏพฤติกรรมบ่งชี้ใดๆ ต้องมีกระบวนการตรวจสอบความเป็นจริงก่อนทุกครั้ง หรือแม้แต่การเลี่ยงห่างในทันที
ซึ่งภาวะแบบนี้มักจะมาคู่กับความผิดหวังเสียใจ เพราะเคยคาดหวังไว้มากและเสียความรู้สึก
บางคนอาจยังฝืนที่จะเสี่ยง ซึ่งกรณีนี้ต้องจดจำไว้เสมอว่าตราบที่การคบหายังไม่สมบรูณ์แน่ชัด จะต้องไม่เผลอจิตปล่อยใจให้เกิดความคาดหวังที่มากเกินไป อย่างน้อยอยู่ในระดับที่สามารถหลบไปทำใจได้ในไม่กี่วัน

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).